ประวัติหลวงปู่จื่อ พัธมุตโต
ประวัติ หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต วัดเขาตาเงาะ ชัยภูมิ
อัตโนประวัติ หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต
พระครูวิมลภาวนาคุณ (หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต) วัดเขาตาเงาะอุดมพร จังหวัดชัยภูมิ พระครูวิมลภาวนาคุณ หรือ หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต เกิดเมื่อ วันพฤหัสบดี ที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๘๖ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีมะแม ที่ตำบลบ้านกอก อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๑๘ ที่ วัดศรีแก้งคร้อ ตำบลช่องสามหมอ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ พระอุปัชฌาย์ คือ พระโพธิญาณมุนี ท่านกำเนิดเกิดมาในตระกูลคนยากจน บิดาเป็นคนเชื้อสายจีน ชื่อนายฮอ แซ่จึง มารดาเป็นคนไทย ชื่อนางพี เฉลียวดี ท่านได้รับการศึกษาเพียงชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก็ต้องออกมาช่วยที่บ้านทำงาน เมื่อโตขึ้นมาก็มีฝีมือในทางเย็บผ้า จึงรับจ้างเย็บผ้าหาเลี้ยงชีพ ท่านเข้ามาทำงานในกรุงเทพมหานคร ก็ได้ทำงานในร้านก่อเกียรติ ซึ่งเป็นร้านตัดผ้าชั้นนำในเมืองหลวงในยุคสมัยนั้น หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ผาง จิตตคุตโต พระอริยสงฆ์แห่งภาคอีสาน วัดอุดมคงคาคีรีเขต (วัดดูน) อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น หลวงปู่เป็นพระวิปัสสนากรรมฐาน ธุดงค์บำเพ็ญเพียรไปยังสถานที่ต่างๆ ที่มีความสงบร่มรื่นที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้ทราบภูมิประเทศ แหล่งประกอบอาชีพและปัญหาการประกอบอาชีพของประชาชนอย่างมากมาย โดยเฉพาะภูมิประเทศอันเป็นแหล่งต้นกำเนิดแหล่งน้ำสำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ แม่น้ำชี ซึ่งมีต้นกำเนิดอยู่ที่เทือกเขาสูงจากอำเภอหนองบัวแดง ไหลผ่านอำเภอบ้านเขว้า หนองบัวระเหว อำเภอจัตุรัส และอำเภอเมืองชัยภูมิ เมื่อปี ๒๕๒๓ ขณะที่ท่านนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร ประชาชนชาวหนองบัวระเหว ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ท่านจึงคิดพัฒนาแหล่งน้ำ "ลำเชียงทา" เป็นแหล่งน้ำที่ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำชี ว่าน่าจะได้มีแหล่งการเก็บกักน้ำไว้ใช้ เพื่อประโยชน์ของชาวชุมชนหนองบัวระเหวและชุมชนใกล้เคียง ท่านจึงได้นำพระภิกษุ ลูกศิษย์ และชาวบ้าน ร่วมกันก่อสร้างเขื่อนดินด้วยงบประมาณอันน้อยนิดของผู้มีจิตศรัทธาบริจาคและงบประมาณของทางราชการที่สนับสนุน ทำให้ประชาชนในอำเภอบ้านเขว้า อำเภอหนองบัวระเหว และอำเภอเมืองชัยภูมิ ทั้ง 3 อำเภอ ได้มีแหล่งน้ำใช้ทางการเกษตรกรรม หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต เป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมี ท่านเป็นพระสุปฏิปันโนผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นพระนักสร้าง นักพัฒนา ได้สร้างคุณประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนนหนทาง และทำฝายเป็นแหล่งกักเก็บน้ำ วัดเขาตาเงาะอุดมพร จังหวัดชัยภูมิ มีพื้นที่โดยประมาณ ๒๐๐ ไร่ จากจังหวัดชัยภูมิ ผ่านบ้านเขว้า เส้นทางหลวงหมายเลข ๒๒๕ ชัยภูมิ-นครสวรรค์ โดยมี พระครูวิมลภาวนาคุณ (หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต) เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาตาเงาะอุดมพร
หลวงปู่จื่อ พันธมุโต ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์กรรมฐาน ที่มีความสามารถอย่างสูงในการแจกแจงแสดงธรรม หลวงปู่จื่อ ท่านเป็นพระเถราจารย์ ผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม เมตตาธรรม เป็นเนื้อนาบุญ อันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธศาสนา เป็นพระป่า พระกรรมฐาน ที่ศิษย์เคารพ ศรัทธา อย่างมหาศาล เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อย่างสิ้นสงสัย
นอกจากนี้เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๓ ขณะที่ท่านนั่งปฏิบัติธรรมอยู่ ณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร ประชาชนชาวหนองบัวระเหว ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ท่านจึงคิดพัฒนาแหล่งน้ำ "ลำเชียงทา" เป็นแหล่งน้ำที่ไหลผ่านลงสู่แม่น้ำชี ว่าน่าจะมีแหล่งการเก็บกักน้ำไว้ใช้เพื่อประโยชน์ของชาวชุมชนหนองบัวระเหวและชุมชนใกล้เคียง โดยได้นำพระภิกษุ ลูกศิษย์ และชาวบ้านร่วมกันก่อสร้างเขื่อนดินด้วยงบประมาณอันน้อยนิดของผู้มีจิตศรัทธาบริจาคและงบประมาณของทางราชการที่สนับสนุน ทำให้ประชาชนในอำเภอบ้านเขว้า อ.หนองบัวระเหว และอ.เมืองชัยภูมิทั้ง ๓ อำเภอ ได้มีแหล่งน้ำใช้ทางการเกษตรกรรม หลวงพ่อเป็นผู้เปี่ยมไปด้วยบารมี ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนนหนทาง ทำฝายเป็นแหล่งกักเก็บ
ขณะเดียวหลวงพ่อปู่ยังสอนด้วยว่า "สถานการณ์ความแตกแยกในบ้านในเมืองเรามีมาก ประชาชนจำเป็นต้องฟังธรรมจะได้อภัยให้กันและกัน ใจดี ใจเบิกบาน ไม่เบียดเบียน ก็ไม่เดือดร้อน ทำบุญ รักษาใจ ใจมีธรรมะ ก็จะให้อภัย คิดถูก คิดชอบ เหมือนกันก็เป็นพี่น้องกัน เจ้าความคิดเป็นผีร้ายสุด จิตบริสุทธิ์ไม่มีผี" ผู้ใดรักษาศีล ๕ นั้น ได้อย่างเคร่งครัด บุคคลนั้นเท่ากับมีคลังทองคำอยู่กับชีวิต แม้ท่านจะเกิดชาติใด ภพใดก็ไม่อับจน แล้วท่านอย่าเพิ่งสงสัย ให้ปฏิบัติดูจะรู้เอง
จากนั้นเป็นต้นมาเมื่อชาวบ้านมาขอให้หลวงพ่อจื่อสร้างอ่างเก็บน้ำท่านก็จะไม่ปฏิเสธ จะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก ขนาดกลาง รวมทั้งขนาดใหญ่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๓ จนถึง พ.ศ.๒๕๕๘ หลวงพ่อจื่อได้เป็นผู้นำศรัทธาชาวบ้านช่วยกันสร้างอ่างเก็บน้ำไปแล้วกว่า ๓๐ แห่ง สามารถพลิกแผ่นดินอันแห้งแล้งที่เคยทำนาได้ปีละครั้ง กลับกลายเป็นทำนาได้ปีละ ๒ ครั้ง ที่สำคัญคือ ชาวบ้านไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปหางานทำที่ไหนในวันที่ฤดูแล้งมาเยือน นอกจากนี้ยังมีอีกโครงการหนึ่งที่หลวงพ่อจื่อกำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ คือ แก้มลิง และฝายเก็บน้ำ ซึ่งถ้าทำเสร็จสามารถมีน้ำเก็บไว้ใช้ได้ ๗ หมู่บ้าน ในช่วงหน้าแล้งฝนทิ้งช่วง ที่เป็นความเมตตาของหลวงพ่อครั้งยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง หลวงปู่จื่อ เป็นพระผู้เปี่ยมไปด้วยบารมี ท่านเป็นพระนักปฏิบัติ นักพัฒนา ได้สร้างประโยชน์ให้ส่วนรวมมากมาย ทั้งถนน ฝายกักเก็บน้ำ
:: มีอิทธิฤทธิ์ปรากฏ เมื่อท่านสร้างฝายเก็บน้ำ ๒ แห่ง ปรากฏว่า ฤดูฝนฝายร้าว ถึงขนาดนายอำเภอต้องซ้อมแผนอพยพประชาชนที่อยู่ใต้ฝาย ท่านเลยไปดูและเหยียบเหนือรอยร้าว ๓ ครั้ง ฝายทั้ง ๒ แห่งยังอยู่จนปัจจุบันนี้ ทั้งนี้หลวงพ่อจื่อได้ให้คติธรรมไว้อย่างน่าคิดว่า "ชีวิตของคนเรานั้นขาดน้ำไม่ได้ เมื่อมีน้ำก็มีกิน เมื่อมีกินก็มีมีชีวิต แต่ที่สำคัญกว่าน้ำที่ดื่มกิน คือ น้ำคำ และน้ำใจ คนเราจะมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติ ต้องมีน้ำคำ คือ คำพูดที่ดี ส่วนน้ำใจนั้นนับวันจะหายากขึ้นทุกที เมืองไทยแล้งแต่คนไทยไม่ควรแล้งน้ำใจ"
28 มิ.ย.64 เวลา 14.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี เชิญสัญญาบัตร พัดยศ และผ้าไตรไปถวายพระราชภาวนาวชิรคุณ สุนทรธรรมวิจิตร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สถิต ณ วัดเขาตาเงาะอุดมพร อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 4 รูป คือ พระครูปลัด 1 พระครูสังฆรักษ์ 1 พระครูสมุห์ 1 พระครูใบฎีกา
พระราชภาวนาวชิรคุณ สุนทรธรรมวิจิตร ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี มีนามเดิมว่า พระครูสุวิมลภาวนาคุณ (หลวงปู่จื่อ พันธมุตโต)
www.lst159.com